"จังหวัดน่าน" ดินแดนล้านนาตะวันออก หรือที่หลายคนเรียกว่า เป็นแฝดพี่แฝดน้องเมืองหลวงพระบาง ที่มีคนจำนวนไม่น้อย ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่นี้ เพราะด้วยความสงบ สภาพอากาศ วิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น รวมทั้ง ความเป็นอยู่ของผู้คนที่เรียบง่าย ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็น "เสน่ห์" สำคัญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาน่าน หลายคนตั้งคำถามว่า น่านมีอะไรดี เหตุไฉนผู้คนจากทั่วสารทิศจึงหลงรักจังหวัดเล็กๆแห่งนี้ และพร้อมที่จะกลับมาเยื่อนอีกครึ้งเมื่อมีโอกาส

เฮือนวาดเขียน ขอเป็นตัวแทนชาวน่าน แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ "ห้ามพลาด" เมื่อมาเที่ยวน่าน ... แล้วคุณจะหลงรักน่าน ...

1.ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย

ดอยเสมอดาว ถือว่าเป็น Highlight ของอำเภอนาน้อย ที่นี้คุณสามารถชมความสวยงามของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ยามเช้า ซึ่งสามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง ด้านล่างมีแม่น้ำน่านไหลผ่านหุบเขา ในยามค่ำคืน ที่นี้ถือเป็นอีกสถานที่ดูดาวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่สามารถดูดาวได้อย่างชัดเจน ประหนึ่งว่าสามารถคว้าดาวลงมาได้เลยทีเดียว อุทยานแห่งชาติศร่น่าน ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านประมาณ 70 กิโลเมตร บนอุทยานมีทีพักและจุดกางเต็นท์ให้บริการ สอบถามข้อมูลบ้านพักของอุทยานแห่งชาติศรีน่านได้ที่เบอร์ 054-701-106

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ช่วงสิ้นปี-ปีใหม่ เป็นช่วงพีคที่สุดของอุทยานแห่งศรีน่าน หากคุณวางแผนจะพักหรือกางเต็นท์บนดอยเสมอดาว ควรสำรองที่พักแต่เนินๆ (มีปรากฎบ่อยๆที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาและไม่มีที่พัก บางรายต้องเข้าไปพักในตัวอำเภอเมืองน่านแทน )หากจะกางเต็นท์จะทำได้หลังจากเที่ยงวันเป็นต้นไป ช่วงเวลาดังกล่าวหากรถมากเป็นพิเศษ อาจจะต้องจอดรถไว้ตรงปากทางเข้าอุทยาน และเดินเข้ามาอีกประมาณ 600 เมตรถึงตัวอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาว

2.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย

อีกหน่งจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นของอำเภอนาน้อย ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง ทางอุทยานมีบริการที่พัก,จุดกางเต็นท์และอาหารไว้บริการแต่ต้องแจ้งทางอุทยานล่วงหน้า สำรองที่พักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 054 701 121 นอกจากนี้ก่อนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติขุนสถาน จะมีสวนองุ่นและสตอเบอรี่ซึ่งจะออกผลในช่วงเดือนกรกฎาคมและธันวาคม สามารถแวะชมและซื้อกลับบ้านได้ ขุนสถานห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านประมาณ 95 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีด้วยรถยนต์ สามารถเดินทางมาที่นี้ได้ 2 เส้นทางคือ

1. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน มาตาม เส้นทางประมาณ 66 กิโลเมตรจะถึงหม่บ้านห้วยแก๊ต ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร

2.จากจังหวัดน่าน ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา - อำเภอนาน้อย และจากอำเภอ นาน้อยเลี้ยวขวา ไปถึงที่ทำการอุทยาน ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร (แนะนำให้มาเส้นทางนี้จะสะดวกกว่า เนื่องจากเส้นทางแรก ทางค่อนข้างชัน และเป็นหุบเขา)

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ขุนสถาน มีอากาศหนาวเย็นและลมแรงตลอดทั้งปี แม้ว่าคุณจะเดินทางมาช่วงหน้าร้อน ควรพกเสื้อกันหนาวหรือกันลม มาสักตัวจะเป็นการดี

3.หมู่บ้านประมงปากนาย อำเภอนาหมื่น

หมู่บ้านประมงปากนาย อยุ่ห่างจากตัวอำเภอเมืองน่าน ประมาณ 90 กิโลเมตร การเดินทาง ขับรถจากตัวเมืองน่าน เข้าอำเภอนาน้อย โดยทางหลวงหมายเลข 1026 จากอำเภอนาน้อยผ่านอำเภอนาหมื่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1339 เป็นทางลาดยางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาอีกประมาณ 25 กิโลเมตร จึงถึงบ้านปากนาย ที่นี้มีร้านอาหารและที่พักบนแพ ให้บริการ ปากนายมีแพที่ให้บริการทั้งหมด 4 แพ ดังต่อไปนี้ - แพสินไทย เบอร์ 089-559-3510 - แพชั้นเลิศ : เบอร์ 080-123-0959 - แพสองบัว : เบอร์ 085-719-1473 - แพเสือปลา : เบอร์ 087-204-1429

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ร้านอาหารบนแพที่ปากนาย มีปลาน้ำจีดหลายชนิดให้รับประทานกันสดๆ เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาแรด ปลาคัง ปลาบึก ราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ จานละ 120-180 บาท

4.วัดพระธาตุเขาน้อย อำเภอเมืองน่าน

วัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดน่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 เมตร หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ยามค่ำคืนบนพระธาตุเขาน้อย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุุณสามารถขึ้นมาชมแสงไฟของบ้านเรือนร้านค้าในตัวเมืองน่านในมุมสูง ซึ่งมีความสวยงามไปอีกแบบ

5.วัดภูมินทร์ "กระซิบรัก บรรลือโลก" อำเภอเมืองน่าน

เป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ภายในวิหารตัวตรงใจกลางพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่สี่องค์มียังจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อมากมายแสดงถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวน่านในสมัยอดีต ไฮไลท์สำคัญของวัดภูมินทร์คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือ ภาพกระซิบรัก บรรลือโลก อันลือลัน ภาพนี้วาดด้วย หนานบัวผัน สล่าชาวไทลื้อ (สล่า เป็นภาษาเหนือแปลว่า ช่างฝีมือ) ในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 เนื่องจากภาพนี้มีความสมบููรณ์มีการใช้ลายเส้นคล้ายภาพสมัยใหม่แม้ว่าจะวาดไว้ตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2410 ทำให้ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดน่านไปด้วยปริยาย

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ด้านหน้าวัดภูมินทร์ เรียกว่า "ข่วงเมือง"เป็นสถานที่จัดกิจกรรม และ ต้อนรับแขกบ้านแขก นอกจากนี้ ตรงข้ามวัดภูมินทร์ เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คุณสามารถจองนั่งรถรางชมเมืองน่าน และข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดน่านอื่นๆได้จากที่นี้ได้

6.พิพิธภัณฑสถานน่าน อำเภอเมืองน่าน

Hilight ของพิพิธภัณฑสถานจังหวัดน่าน คือ "งาช้างดำ" ซึ่งชาวจังหวัดน่านถือว่า เป็นวัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่านและถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดน่าน งาช้างดำ มีลักษณะเป็นงาปลียาว 97 เซนติเมตร วัดโดยรอบตรงส่วนใหญ่ที่สุด 47 เซนติเมตร โพรงตอนโคนลึก 14 เซนติเมตร สีออกน้ำตาลเข้มไม่ดำสนิท มีจารึกอักษรล้านนาว่า "กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน" หรือประมาณ 18 กิโลกรัม พิพิธภัณฑสถานจังหวัดน่าน เปิดทำการวันพุธถึงวันอาทิตย์ เวลา 08.30 - 16.30 น ค่าธรรมเนียม : ชาวไทย 20 บาท ,ชาวต่างประเทศ 100 บาท , ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป นักเรียนในเครื่องแบบ นักบวชทุกศาสนา ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ด้านหน้าของพิพิธภัณฑสถาน จะมีซุ้มดอกลีลาวดี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น"มุมมหาชน" ที่ถ้าได้มาเยื่อนน่านแล้วมา จะต้องมาถ่ายรูปกับซุ้มลีลาวดีแห่งนี้

7.พระธาตุแช่แห้ง อำเภอเมืองน่าน

ตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง องค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนา ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่เกิดปีกระต่าย เดินทางมาสักการะพระธาตุแช่แห้ง แห่งนี้

8.อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว (ที่ตั้งที่ทำการอุทยาน)

ยอดดอยภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในพื้นที่ป่าแห่งนี้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารชั้น 1A อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่านและแม่น้ำลำธารสาขาหลายสาย ที่นี้มี "ดอกชมพูภูคา" พันธุ์ไม้หายากที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย จุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุด อยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 (บัว-บ่อเกลือ) ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทางอุทยานแห่งชาติจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา ดอกจะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร 0-5470-1000, 0-5473-1362

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

เนื่องจากอุทยานแห่งชาติดอยภูคาครอบคลุม 8 อำเภอของจังน่าน อาทิเช่น อำเภอปัว อำเภอบ่อเกลือ อำเภอท่าวังผา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง เป็นต้น ทำให้อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว กล่าวคือ นอกจาก ดอกชมพูภูคาแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอื่นๆอีก เช่น น้ำตกศิลาเพชร, ต้นปาล์มดึกดำบรรพ์ ,สุสานหอย 218 ล้านปี ,ถ้ำผาฆ้อง(มีหินงอกหินย้อยรูปลักษณ์ต่างๆ แปลกตา)

9.วัดภูเก็ต อำเภอปัว วัดภูเก็ต ตั้งอยู่ใน ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน ซึ่งตามจริงแล้ววัดภูเก็ต ตั้งชื่อตามหมู่บ้านที่ชื่อว่า หมูบ้านเก็ต แต่ด้วยวัดตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งทางเหนือ เรียกว่า "ดอย" หรือ "ภู" จึงตั้งชื่อว่า "วัดภูเก็ต" หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภูนั้นเอง จุดเด่นของวัด คือ มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัดติดกับทุ่งนาที่กว้างไกลพร้อมด้วยฉากหลัง เป็นภูเขาวนอุทยานดอยภูคา ในยามเช้าวัดภูเก็ตเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง ด้านล่างวัดมีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำซับซึมมาจากใต้ดินไหล รินรวมกันเป็นลำธารให้ฝูงปลาและสัตว์น้ำอยู่อาศัย ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทาน สามารถมองเห็นฝูงปลาที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

ภายในวัดยังมี เทมเพิล สเตย์ (Temple Stay ) หรือเรียกว่า"โรงแรมธรรมะ" ที่เรียกว่าโรงแรมธรรมะ เพราะมีการจัดห้องพักในลักษณะ เดียวกับโรงแรม ซึ่งผู้ที่เข้ามาพักจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด รวมทั้งจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ เณรภายในวัด ได้ทำบุญ ตักบาตร ที่สำคัญที่โรงแรมแห่งนี้จะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด โรงแรมธรรมะของวัดภูเก็ตถือเป็นแห่งแรก ในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่การเปิดศาลาวัดให้คนเข้าไปนอนแล้วมาตั้งชื่อว่าเป็นโรงแรม แต่ที่วัดภูเก็ตมีการสร้างอาคารและห้องพัก ที่มีลักษณะ เหมือนกับโรงแรมทั่วไป ประมาณโรงแรมระดับ 3 ดาว เพียงแต่ผู้ที่จะเข้ามาพักหากมาเพื่อปฏิบัติธรรมไม่ต้องเสียค่าที่พัก สอบถามข้อมูลของวัดภูเก็ต อำเภอปัว จังหวัดน่าน ได้ที่website www.watphuket.com หรือติดต่อTemple Stay โทร 089-552-4503 ,084-046-9745

10.บ่อเกลือสินเธาว์ อำเภอบ่อเกลือ

บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อ. บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือ เกลือบนภูเขาแห่งเดียวในโลก ที่นี้คุณจะได้เห็นการทำเกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม กล่าวคือ ชาวบ้านจะนำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกะทะประมาณ 4-5ชั่วโมงให้น้ำเกลือระเหยแห้ง จากนั้นก็จะนำไม้้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือ กะทะเพื่อให้น้ำเกลือไหลลงมาในกะทะทำอย่างนี้ ไปเรื่อย จนน้ำในกะทะแห้งหมดแล้วจึงตักน้ำเกลือจากบ่อมาใส่ลงไปใหม่ หลังจากนั้นก็ใส่ถุงวางขายกันหน้าบ้าน

เฮือนวาดเขียน..ขอบอก

เกลือที่นี้ไม่มีไอโอดีนเหมือนเกลือทะเล จะเป็นการดีการมีการเติมสารไอโอดีนก่อนถึงมือผู้บริโภค

Cr ข้อมูล : th.wikipedia.org/ และ paiduaykan.com/